เป็นเรื่องเหมาะสมแล้วที่ถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก ของจริงอยู่ที่เจเจบี สเตเดี้ยม ส่วนถ้วยจำลองอยู่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
อีกครั้งหนึ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องเอาจริงพวกเขาทำได้ เหมือนกับที่ริโอ เฟอร์ดินานด์ ให้สัมภาษณ์หลังปีศาจแดงเชนะวีแกน ไปได้ 2-0 ในขณะที่เชลซี ทำได้แค่เสมอ
“ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาเราต้องจัดการกับสถานการณ์กดดันต่างๆ ที่เข้ามา และวันนี้เราก็สามารถทำได้อีกครั้ง”
ในเกมที่สามของฤดูกาลยูไนเต็ด พ่ายให้กับเรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี๊ ไป 1-0 และทำให้ทีมอยู่ในท้ายตารางด้วยคะแนนสองคะแนน ปฏิกิริยาที่พวกเขาแสดงให้เห็นคือการเอาชนะแปดเกมโดยเสียแค่สองประตู และก็เกือยเป็นเก้านัดรวดหากพวกเขาไม่เสมออาร์เซนอล ที่ดิเอมิเรตส์
ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ครบรอบห้าสิบปีที่เกิดโศกนาฏกรรมกับทีมที่มิวนิค พวกเขาก็แพ้ให้แก่เพื่อนร่วมเมืองอีกครั้งด้วยสกอร์ 2-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาดูจะลดความหวังในการป้องกันแชมป์ลง
หลังจากเสียแต้มให้เดอะ โบโร่ และแบล็คเบิร์น รวมทั้งพ่ายเชลซี พวกเขาก็กลับมาเก็บแต้ม และเป็นแชมป์ด้วยการชนะเวสต์ แฮม และวีแกน ในสองนัดสุดท้าย
และในที่สุดงานของพวกเขาก็เสร็จสมบูรณ์ ปีศาจแดง และผู้จัดการทีมเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่สิบ ในที่สุดเราก็ได้เห็นเฟอร์กี้ ตะโกนว่า เราเป็นแชมป์แล้ว เสียงดังลั่นเหมือนๆ กับคนอื่น
เขาจะวางมือหลังจบฤดูกาลนี้ หลังจากได้ดับเบิลแชมป์หรือ อย่าเพิ่งไปจริงจังกับคำถามนั้นเลยน่า ตอนนี้ปีศาจแดงได้แชมป์ลีกสูงสุดมา 17 ครั้งห่างจากสถิติของคู่รักคู่แค้นลิเวอร์พูล อยู่แค่หนึ่งเดียว และท่านเซอร์ ก็เคยบอกว่าจะพยายามทำลายสถิตินั่น
นี่เป็นบ่ายที่ดีของปีกพ่อมดไรอัน กิ๊กส์ เช่นกัน เขาถูกเปลี่ยนลงไปในครึ่งหลัง และยิงประตูที่สองของทีมได้ เขาได้เหรียญชนะเลิศพรีเมียร์ ลีก สมัยที่สิบในวันเดียวกับที่ทำสถิติลงสนามให้ทีมเท่ากับเซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน
แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นหากปีศาจแดงเสียจุดโทษ และพอล สโคลส์ โดนไล่ออกในครึ่งแรก แต่ในครึ่งหลังพวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ต้องทำหากต้องการได้แชมป์ หากพวกเขาไม่ได้แชมป์ก็ดูจะอยุติธรรมเกินไป
ในวันทีผ่านมาพวกเขาแสดงให้เห็นถึงเครื่องหมายการค้าของลูกทีมท่านเซอร์ นั่นคือการเล่นอย่างเป็นอิสระ มีทักษะความสามารถรวมทั้งสีสีนที่น่าดูสำหรับแฟนบอล แต่เครื่องหมายที่สำคัญสำหรับแชมป์ก็คือการชนะในเวลาที่ต้องชนะ หากคุณดูเมื่อวานนี้จะเห็นว่าวีแกนสามารถโชว์ฟอร์มที่ดีเยี่ยมของพวกเขาแต่ปีศาจแดง ก็เก็บชัยชนะได้
นี่นับเป็นปีที่น่ามหัศจรรย์สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาเป็นทีมที่สมควรเป็นแชมป์ด้วยการยิงประตูได้มากสุด และเสียประตูน้อยสุด
อีกเรื่องที่เป็นจุดสนใจก็คือการเล่นของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมอุ่นใจจากการยิงประตูแรกจากลูกจุดโทษ ประตูที่ 31 ในลีก
ปีนี้นับเป็นปีที่สุดมหัศจรรย์ของซุปเปอร์สตาร์ชาวโปตุเกส ศูนย์กลางการออกอาวุธของทีม ที่ได้รับการสนับสนุนจากคาร์ลอส เตเวซ (14 ประตู) และเวย์น รูนีย์ (12 ประตู)
พวกเขาสามคนสามารถสร้างข่าวพาดหัวได้บ่อยครั้ง และแน่นอนความสำเร็จของปีศาจแดงมาจากพวกเขาเท่าๆ กับความแข็งแกร่งของแผงหลังที่ทำสถิติเยี่ยมสุดในพรีเมียร์ ลีก
แผงหลังปีศาจแดงเสียไปแค่ 22 ประตูดีกว่าสถิติเดิมถึงสี่ประตู โดยที่ 21 นัดพวกเขาไม่เสียประตูเลยเป็น 21 นัดที่เอดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสา
นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับสโคลส์ และไมเคิล คาร์ริก เช่นกัน เมื่อวานนี้คาร์ริก ฉลองการลงสนามให้สโมสรครบร้อยครั้ง และลบข้อกังขาที่ผู้คนเคยมีตอนที่ท่านเซอร์ลงทุนซื้อเขามาจากสเปอร์ส ด้วยค่าตัว 18.6 ล้านปอนด์
ผลงานของปีศาจแดงในปีนี้ยังมีผลมาจาการตัดสินใจจะปรับปรุงทีม และซื้อนักเตะเพิ่มขึ้นของเฟอร์กี้ ศักยภาพของแอนเดอร์สัน ที่ลงช่วยทีมเป็นสิ่งที่พิสูจน์ที่ดี
Busby Babe